วันนี้(3 ธ.ค.64) นายสาธิต รัตนสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยทีมวิศวกร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระนอง และผุ้แทนเทศบาลเมืองบางริ้น ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหายฝายคลองบางริ้น หมู่ที่ 2 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ที่บริเวณประตูระบายขนาด 6x3 เมตร จำนวน 2 บาน เกิดการทรุดตัวจนพังถล่มลงมาเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา จนทำให้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กของฝายได้รับความเสียหาย ซึ่งจากการตรวจสอบและประเมินของทีมวิศวกรพบว่า หากตั้งงบประมาณในการซ่อมแซมจะไม่คุ้ม จึงได้มีการเตรียมเสนอโครงการขอสร้างฝายคลองบางริ้นใหม่ทั้งระบบ บริเวณใกล้กับจุดเดิม ขนาดความสูงของตัวฝายเท่าเดิม ประมาณ 3.5 เมตร ซึ่งได้มีการประสานงานเบื้องต้นกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ภาค 4 ไว้แล้ว โดยขอใช้งบกลาง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ประมาณ 70-80 ล้านบาท หากได้รับการจัดสรรก็จะสามารถเข้าดำเนินการได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมนี้ ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง โดยให้เทศบาลเมืองบางริ้น เป็นผู้ของบประมาณผ่านสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 แต่ในระหว่างรองบประมาณจะได้ติดตั้งป้ายไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าเนื่องจากเป็นพื้นที่อันตราย
ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 กล่าววด้วยว่า ก่อนที่ฝายคลองบางริ้น จะเกิดการทรุดตัวและพังถล่มลงมานั้น เมื่อปี 2561-2562 ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 ได้ตรวจพบความเสียหายบริเวณด้านหน้าประตูระบายน้ำในลักษณะเป็นโพรง ทางเทศบาลเมืองบางริ้น จึงได้ขอความอนุเคราะห์ให้กรมทรัพยากรน้ำ ได้จัดสรรงบประมาณมาซ่อมแซม เนื่องจากฝายดังกล่าว ได้ถ่ายโอนให้เทศบาลเมืองบางริ้น เมื่อปี 2553 ซึ่งเทศบาลเมืองบางริ้น ไม่มีงบประมาณในการซ่อมแซม สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 จึงได้จัดสรรงบประมาณ 21 ล้านบาท เมื่อปี 2563 เพื่อซ่อมแซมฝาย แต่ผู้รับจ้างก็มาทิ้งงาน และมีการยกเลิกสัญญาจ้างแล้ว ทำให้งบประมาณถูกพับไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 และอยู่ระหว่างตั้งงบประมาณใหม่ขอซ่อมแซมฝายอีกครั้ง ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนและทีมงานได้เข้ามาสำรวจอีกครั้ง พบว่าโพรงบริเวณฐานประตูระบายน้ำมีการขยายตัวมากขึ้น และมีการทรุดตัวพังทลายลงเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ส่วนสาเหตุมาจากฝายสร้างมานานเมื่อปี 2552 ประกอบกับมีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านฝายเป็นจำนวนมากจากฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องหลายวัน แต่เนื่องจากฝายคลองบางริ้น เป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาระนอง เมื่อฝายพังถล่มลงมาทำให้ไม่สามารถสูบน้ำไปผลิตน้ำประปาได้นั้น ในเบื้องต้นจะมีการประสานกับเทศบาลเมืองบางริ้น การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และฝ่ายปกครอง เพื่อทิ้งหินบริเวณหน้าหัวสูบน้ำ เพื่อยกระดับน้ำให้สูงขึ้นประมาณ 1 เมตร ให้สามารถสูบน้ำได้ นอกจากนี้การประปาส่วนภูมิภาคยังสามารถใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้นในการผลิตน้ำประปาอีกแหล่งหนึ่งอยู่แล้ว
สำหรับฝายคลองบางริ้น ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2552 งบประมาณก่อสร้าง 41.772 ล้านบาท เป็นโครงสันฝายมน ความยาวสันฝาย 70 เมตร บานประตูขนาด 6x3 เมตรจำนวน 4 บาน ความสูงสันฝาย 3.5 เมตร เก็บกักน้ำได้ 150,000 ลูกบาศก์เมตร สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 ได้ถ่ายโอนให้เทศบาลเมืองบางริ้นเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 ส่วนในฝายใช้เป็นแหล่งผลิตน้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาระนอง และประปาของเทศบาลเมืองบางริ้น และอีกทั้งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ สำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงฤดูแล้งด้วย..///////
สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 สุราษฎร์ธานี เผยเหตุประตูระบายน้ำฝายน้ำล้นคลองบางริ้นทรุดตัว 🌧สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 สุราษฎร์ธานี เผยเหตุที่ประตูระบายน้ำฝายน้ำล้นคลองบางริ้น ตำบลบางริ้น อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ทรุดตัวว่า ฝายน้ำล้นคลองบางริ้นมีอายุการใช้งานมากว่า 10 ปี และ สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 10 สุราษฎร์ธานี ได้ตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการซ่อมแซม โดยผู้รับจ้างได้ทิ้งงาน กอปรกับ ปีนี้มีปริมาณน้ำฝนมาก มีน้ำป่าไหลหลากทำให้ตัวประตูระบายน้ำเกิดการทรุดตัวลง แต่ระดับน้ำไม่ได้ยกตัวขึ้นล้นฝาย จึงไม่ได้ทำลายระบบนิเวศน์สองฝั่งคลองและประชาชนไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุในครั้งนี้ น้ำยังคงไหลลงสู่ทะเลได้ตามปกติ
Posted by สวท.ระนอง FM 107.25 MHz on Thursday, December 2, 2021